Loei
เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู
จังหวัดเลย
มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเชื่อกันว่ามีการตั้งรกรากมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีตำนานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าเมืองเลยถูกก่อตั้งโดยกลุ่มคนจากเมืองต่างๆ ในแถบนี้มารวมตัวกัน
สมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองเลยถูกกล่าวถึงในฐานะเมืองชายแดนที่สำคัญ โดยตั้งชื่อตามลำน้ำเลย ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของพื้นที่ คำว่า “เลย” ในอดีตอาจมีความหมายถึง “พ้นไป” หรือ “สุดเขตแดน” เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลและเป็นชายแดนของอาณาจักรในสมัยนั้น
สมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมืองเลยถูกยกฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นกับนครราชสีมา (โคราช) และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการปฏิรูปการปกครองส่วนภูมิภาค เมืองเลยจึงถูกจัดตั้งเป็น “เมืองเลย” ขึ้นอยู่กับมณฑลอุดรธานี
ยุคปัจจุบัน หลังจากนั้น เมืองเลยได้มีการพัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งถูกยกฐานะเป็น “จังหวัดเลย” ในปี พ.ศ. 2459 โดยเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็นและภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ตั้งของจังหวัดเลย
- ทิศเหนือ: ติดต่อกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองเป็นพรมแดนธรรมชาติ
- ทิศตะวันตก: ติดต่อกับจังหวัด พิษณุโลก และ เพชรบูรณ์
- ทิศตะวันออก: ติดต่อกับจังหวัด หนองคาย, อุดรธานี, หนองบัวลำภู และ ขอนแก่น
- ทิศใต้: ติดต่อกับจังหวัด เพชรบูรณ์ และ ขอนแก่น
จังหวัดเลยตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางเหนือประมาณ 520 กิโลเมตร 📍 เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ และประเทศเพื่อนบ้าน
ภูมิประเทศของจังหวัดเลย
ภูมิประเทศของจังหวัดเลยส่วนใหญ่เป็น เทือกเขาสูง สลับซับซ้อน โดยเฉพาะทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีลักษณะเป็นภูเขาเรียงรายและมีที่ราบลุ่มอยู่ระหว่างหุบเขา ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และเป็นที่มาของฉายา “เมืองแห่งทะเลภูเขา”
สามารถแบ่งลักษณะภูมิประเทศออกเป็น 3 เขตหลัก:
- เขตภูเขาสูง: ครอบคลุมพื้นที่ทางทิศตะวันตกทั้งหมด เช่น อำเภอภูกระดึง, อำเภอภูเรือ, อำเภอภูหลวง, อำเภอด่านซ้าย และอำเภอนาแห้ว ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยกว่า 600 เมตร
- เขตที่ราบเชิงเขา: อยู่บริเวณตอนใต้และตะวันออกของจังหวัด มีที่ราบพอเหมาะสำหรับการเพาะปลูกและมีประชากรหนาแน่นปานกลาง เช่น อำเภอนาด้วงและอำเภอปากชม
- เขตที่ราบลุ่ม: มีพื้นที่ไม่มากนัก อยู่บริเวณตอนกลางของจังหวัดตามลุ่มน้ำเลยและลุ่มน้ำโขง เช่น อำเภอเมืองเลย, อำเภอวังสะพุง และอำเภอเชียงคาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเกษตรและมีประชากรหนาแน่นที่สุด
จังหวัดเลยมีลักษณะอากาศแบบ ทุ่งหญ้าสะวันนาเขตร้อน (Tropical Savanna Climate) ซึ่งหมายความว่ามีอากาศร้อนตลอดปี แต่เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีสภาพอากาศที่แตกต่างจากภาคอีสานโดยทั่วไป และมีช่วงที่อากาศหนาวเย็นจัดในฤดูหนาว
สภาพอากาศโดยรวมสามารถแบ่งได้ 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูร้อน (มีนาคม – พฤษภาคม)
- ลักษณะอากาศ: มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะเดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด
- อุณหภูมิ: อุณหภูมิสูงสุดอาจสูงถึง 35-40 องศาเซลเซียส แต่เนื่องจากมีลมพัดผ่าน ทำให้ไม่ร้อนอบอ้าวเท่าจังหวัดในพื้นที่ราบลุ่ม
ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม)
- ลักษณะอากาศ: มีฝนตกชุกและต่อเนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูง
- ผลกระทบ: ทำให้มีความชื้นสูงและฝนตกหนักในบางพื้นที่ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติมีความเขียวชอุ่มที่สุด เหมาะสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์)
- ลักษณะอากาศ: เป็นช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดของจังหวัดเลย เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็นถึงหนาวจัด และเป็นที่มาของคำขวัญ “สุดหนาวในสยาม”
- อุณหภูมิ: อุณหภูมิลดลงต่ำสุดในเดือนธันวาคมและมกราคม โดยเฉพาะบริเวณยอดภูเขา เช่น ภูเรือ และภูกระดึง ที่อุณหภูมิอาจลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส